เมื่อต้องขายบ้าน ทั้งที่จ่ายเงินไม่ครบ

         กว่าจะตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ได้ กว่าสินเชื่อธนาคารจะอนุมัติ คุณคงลุ้นใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กัน อยู่ได้ไม่นานก็มีเหตุให้ต้องขายบ้าน เพราะเหตุด้านหน้าที่การงาน หรือทางบ้าน ณ ต่างจังหวัดเรียกให้กลับไปแบบถาวร หรืออีกทางหนึ่งคือถูกเชิญออกจากงานเพราะพิษเศรษฐกิจ จากสวรรค์อย่างบ้าน อาจกลายเป็นทุกข์ของคุณ เพราะติดเรื่องสินเชื่อที่ค้างคาอยู่ ทางออกที่ดีคือการขาย แต่ขายอย่างไรให้คุณมีเงินเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังจากการจ่ายสินเชื่อธนาคารหมดไปแล้ว

          ก่อนการขายบ้าน ควรตรวจเช็คสภาพของบ้านก่อนปล่อยเพื่อราคาที่เหมาะสม รวมถึงแบบแปลนของบ้านเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ซื้อ ว่าตรงตามหลักเทคนิคหรือไม่ ตรวจเช็คระบบน้ำ ระบบไฟฟ้าหลังจากการใช้งานของเราว่าส่วนใดชำรุดหรือไม่ หากต้องแก้ไขก็ควรทำให้เรียบร้อยก่อนการปล่อยขาย หากคุณปล่อยทิ้งไว้ ทางผู้ซื้อสามารถขอลดหย่อนราคาในส่วนนี้ เพราะแบ่งเงินไว้ซ่อมแซมด้วย เมื่อตรวจเช็คระบบต่าง ๆ ภายในบ้านว่าโอเค สามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันทีหากต้องการเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านด้วย ก็ประกาศขายตามเว็บต่าง ๆ ได้แล้ว

          ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ การหาตลาดรองรับก็มีความจำเป็น เพราะการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน ควรประเมินราคาเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านให้เรียบร้อยก่อน และสุดท้ายคือการตรวจราคาที่ดินของบ้านหลังนั้น ว่าในเขตเดียวกันแต่คนละหมู่บ้านมีราคาขายกันเท่าไหร่? หรือเขตบ้านของคุณอยู่ใกล้กับระบบสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า หรือมีวินมอเตอร์ไซต์หรือเปล่า ยิ่งการคมนาคมสะดวกเท่าไร การขายบ้านยิ่งง่ายขึ้น

          การขายบ้านใช่ว่าสามารถประกาศขายแล้วมีคนซื้อทันที คุณควรมีเงินสำรองไว้กรณีฉุกเฉินเผื่อไม่มีคนมาซื้อภายในกี่เดือนตามกำหนด เพราะค่าผ่อนคุณต้องชำระตามกำหนดเช่นกัน ถ้าขาดการส่งแล้ว อาจถูกดิสเครดิตจากธนาคาร โดนเล่นอีกทางด้วย การประกาศขายบ้านควรถ่ายรูปทุกมุมบ้าน (ติดลายน้ำป้องกันการขโมยไปใช้งานหน่อยก็ได้) เบอร์ติดต่อสอบถามข้อมูล และราคาโดยประมาณ ให้คนได้สนใจและประเมินกันถูกต้อง อาจตั้งราคาไว้สูงหน่อยเผื่อการต่อราคาของผู้ซื้อ เท่าที่ก็จะมีเงินเหลือนิดหน่อยไว้เป็นทุนต่อไปแล้ว